ทริปล้างใจ EP.1 @ฮ่องกง


ต้องออกตัวก่อนเลยนะคะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขียนblog และอาจไม่ใช่รีวิวแต่อยากใด เป็นแค่เรื่องเล่าระหว่างการเดินทางเท่านั้น ปกติเวลาไปเที่ยวก็จะถ่ายรูปโพสเฟสบุ๊คธรรมดา จุดเริ่มต้นที่เขียนคือ เวลาเราไปที่ไหนก็จะมักมีเพื่อนมาคอมเม้นว่า “เห้ยที่ไหน สวยจัง อยากไปว่ะ” #เราเป็นคนไม่ชอบเช๊คอิน 5555 เข้าเรื่องทริปฮ่องกงกันดีกว่า เราไปมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เหตุผลในการตัดสินใจไปคนเดียวคือ “อกหัก” เราไปคนเดียวแบบซื้อตั๋วเก็บกระเป๋าแล้วไปเลย ยังกะนางเอกเอ็มวีอะไรประมาณนั้น ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากไปไกลๆเจออะไรใหม่ๆจะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเก่าๆภาพเดิมๆ เริ่มจากจองตั๋ว เราเลือกสายการบิน hongkong airline เพราะตอนจองถูกที่สุดแล้ว 😁😁😁 เราใช้เวลาบิน 3ชั่วโมงก็ถึงฮ่องกงแล้ววววววว

พอลงเครื่องเสร็จเราก็เดิมตามคนอื่นมาเลยค่ะ แบบว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เค้าพาเดินขึ้นรถไฟเราก็ขึ้นค่ะ 5555 จนมาถึง ตม. เราก็แวะไปหญิบใบ ตม.มากรอกอย่างละเอียด แต่แล้วเหมือนว่า ตม.ก็แกล้งเราเรียกเราเข้าห้องเย็น ติดอยู่ในนั้น 2ชั่วโมงเพื่อรอคิว แม่เจ้า!!!!! ตอนนั้นเราคิดว่าจะกักเราทำไมว๊ะ มาคนเดียวมันแปลกหรอ?????? จนเจ้าหน้าที่เรียกเราเข้าไปถามในห้อง2ต่อ2(เจ้าหน้าที่ก็หล่อเกิ๊น) เค้าถามแบบละเอียดมาก เราเคยมาฮ่องกงแล้วครั้งนึงตอนนั้นมากับทัวร์ ตม.เริ่มคำถามเราก็ตอบแบบงูๆปลาๆ มาคนเดียวหรอมาทำอะไรทำงานอะไรพักที่ไหนจะกลับวันไหนมีเงินเท่าไหร่จะไปที่ไหนบ้าง  และสุดท้าย ตม. ถามว่า Why are you here alone? น้ำตาคลอเลยจ้าโดนถามคำถามแทงใจ ตอบกลับไปว่า I just broke up with my boyfriend and now want to explore somewhere to cure my feelings (ไหลจริงน้ำตากู5555) เช็ดน้ำตาแล้วยิ้มอ่อย ตม.เบาๆ หลังจากออกจากห้องเย็นก็เดินออกมาเพื่อที่จะขึ้นรถไฟเข้าไปในเมือง เราก็มองหาป้าย airport express เป็นรถไฟสายสีเขียวที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินกับเกาฮ่องกงนั่นเอง โดยเราเดินออกไปก็เจอเลย เราก็ทำการซื้อตั๋ว ไปลงที่สถานีฮ่องกง จากนั้นก็ต่อรถไฟสายสีแดงไปลงที่จอร์แดนค่ะ เพราะที่พักอยู่แถวนั้น ย่านนั้นเรียกว่า Tsim Sha Tsui อ่านว่า จิมซาจุ่ยค่ะ เราทำการจองที่พักผ่าน agoda เพราะอ้อมชินกับการใช้แอฟนี้ในการจอง เราใช้วิธิการเดินจากสถานีรถไฟใต้ดินออกมาทะลุตรงตึกที่พักที่จองไว้มีชื่อว่า Toronto Holidays ลักษณะที่พักจะเป็นตึก ภายในก็จะมีหลายชั้น แต่ละชั้นก็จะเป็นที่พักซะส่วนใหญ่ พอไปถึงก็โทรหาที่พักบอกว่าเรามาถึงแล้ว ก็จจะมีแม่บ้านเอากุญแจมาให้ ภายในก็จะแบ่งเป็นห้องประมาณ5-6ห้องได้ และนี่คือห้องนอนของดิชั้นค่ะ (ห้องสำหรับนอนจริงๆ) เปิดประตูเข้าไปแล้วเจอเตียง และมีห้องน้ำขนาดพอดีตัว เอาว๊ะ แค่นอนได้ก็พอ เราไม่เน้นนอนอยู่แล้ว 5555 ราคาที่พักก็โอเคค่ะ แค่200ดอร์ล่าฮ่องกง ถือว่าไม่แพง   

หลังจากได้ที่พักแล้วเราก็ทำการไปที่แรกเลยจ้า ตอนนั้นมันค่อนข้างค่ำแล้วเลยหาอะไรกินซะหน่อยโดนการไปตามรีวิวค่ะ เค้าว่าย่านนั้นอะไรอร่อยก็ไปกิน มื้อแรกของอ้อมที่ฮ่องกงคือ แท๊เด่

What this 55555 ก็เห็นมันน่ากินและในรีวิวมีคนสั่งเยอะมาก(อ้อมใช้appรีวิวร้านอาหารในฮ่องกง ชื่อ OpenRice คล้ายๆwongnaiบ้านเรานี่แหละ) เลยบอกว่าเอานี่แหละ รสชาติจะแบบว่า จืดชืด แต่เกี๊ยวอร่อย เส้นเหนียวนุ่ม ชามใหญ่มากกกกก กินก็ไม่หมด
หลังจากกินเสร็จเราก็เดินเท้าไปที่อ่าววิคตอเรียเพื่อที่จะไปดูไฟ ระยะทาง1กิโล ถ้าใครไม่ได้พักอยู่แถว Tsim Sha Tsui ก็นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tsim Sha Tsui นะคะ อ้อมใช้วิธี search ใน google map แล้วเดินตามแผนที่ค่ะ คนไทยค่อนข้างเยอะค่ะที่นี่ ส่วนมากก็จะมากับทัวร์ เราเจอคนไทยที่นี่ด้วยแหละ โชคดีเป็นของเราแล้ว 5555 เลยวานให้น้องเค้าถ่ายรูปให้1รูป 

 
โชว์แสง สี เสียง the symphony of lights ริมอ่าววิคตอเรีย

มีความเป็นนางเอกMVที่1เลย 55555  

วันนี้เล่าเรื่องวัดดีกว่าค่ะ วัดที่จะมาเล่ามี2วัดค่ะ วัดหวังต้าเซียน กับ วัดแชกงหมิว มาเริ่มกันที่ หวังต้าเซียนค่ะ คนไทยจะชินกับชื่อนี้กัน วัดนี้จะโด่งดังในเรื่อง ไหว้พระสละโสด ซึ่งดิชั้นก็ได้ไปไหว้มาเรียบร้อยแล้วค๊า ว่ากันว่าใครที่ยังโสดมาไหว้ขอเนื้อคู่ที่นี่ส่วนใหญ่จะได้ ใครที่แต่งงานแล้วก็มาไหว้ขอลูกกันค่ะ และวันนี้จะดังในเรื่องเซียมซีค่ะ แม่นมาก ซึ่งดิชั้นก็ไม่พลาดอีกเช่นกัน เสี่ยงสิคะ 



อ่านออกมั๊ย (ไม่) แต่เจ้าหน้าที่ ที่นั่นบอกว่า กลางๆ

ต่อด้วยไหว้พระสละโสดขอผู้เนื้อคู่จงมาด้วยเถอะ เพี๊ยง 

ถัดมาวัดแชกงหมิวค่ะ วัดนี้อ้อมมาไหว้เพื่อแก้ชงค่ะ เพราะปีนี้มะโรงชง100% เป็นวัดที่คนไทยมากันเยอะมาก เจ้าหน้าที่ที่นี่พูดไทยได้เกือบทุกคน amazing มากๆ 555 และวัดนี้ก็จะดังเรื่อง ชัยชนะ โชคลาบ ความโชคดี โดยมีสัญลักษ์จากวัดนี้เป็นกังหันลม4เฉกนั่นเอง 

 
เทพเจ้าแชกง

  
กังหัน หมุนนำพาแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต 

แท๊แด่น วันนี้เราจะไป  Hong Kong Disneyland กันค่ะ เดินทางโดยรถไฟMTR อีกแล้วเช่นเคย ตลอดทั้งทริปเลยอ้อมจะใช้ขนสงสาธารณะคือ รถไฟโดยโหลด App MTR mobile มาดูเส้นทางค่ะ หรือง่ายๆเลย ก็ google map เพราะเราชินกับ App นี้มากกว่าเนอะ เอาล่ะไปกันได้แล้ว อ้อมเปลี่ยนสถานีอยู่3ครั้งค่ะ แล้วก็มาถึง Hong Kong Disneyland ดินแดนมหัศจรรย์ ในส่วนของด้านในเครื่องเล่นก็จะมีหลายโซนค่ะ มีทั้งโชว์ดิสนี่ที่เค้าจำลองการแสดง มีเดินขบวนพาเหรต เครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็ก เครื่องเล่นหวาดเสียวสำหนับเด็กโต กลางคืนก็จะมีพรุแสงสีเสียงสุดอลังการ เสียดายมัวแต่ตื่นเต้นLiveในFacebookเลยได้รูปมานิดเดียว 555

 
ซื้อตั๋วเข้ามาเล่นได้ทุกสิ่งอย่าง ในราคา 619 ดอลลาร์ฮ่องกง

 เจอตัวแล้วมินนี่กับมิคกี้

เราก็จะวานหนุ่มๆช่วยถ่ายรูปให้ 5555 

 
ตัวอย่างแผนที่ เรา search จาก google map ขากลับค่ะ

รูปน้อยมากแทบไม่ได้ถ่ายอะไรเลย liveจนเบตรหมด 
และแล้วก็ถึงวันจะกลับเมืองไทย ก่อนกลับคืนนี้ขอปาร์ตี้หน่อย เราเลือกไปสถานที่อโคจรนั่นก็คือ หลานไกวฟง มันจะแนวประมาณ  walking street พัทยาอ่ะ ถนนเส้นเดียวมีผับมีบาร์ ลูกค้ามีทั้งฮ่องกง มีทั้งต่างชาติ แน่นอนว่าสถานที่แบบนี้มาคนเดียวไม่รอดแน่ เราจึงได้ทำการเม๊คเฟรนจ้า เป็นชะนีไทย2นาง นางน่ารักสายฮาเหมือนเรา เลยลองชวนมา เริ่มจากนั่งรถไฟเช่นเคยค่ะ จากสถานีจอร์แดนไปลงสถานีเซนทรั่น แล้วเดินต่อไปจนถึง หลานไกวฟง หืมมมมมมมมม แว๊วแรกเลยที่เจอ “ผู้ชายจ้า งานดีทั้งนั้นเลย 555”  
เรานั่งจิบเบาๆที่บาร์จากนั้นก็ไปกินปิ้งย่างคล้ายๆหมาล่าที่เมืองไทยอยู่ที่ร้าน เจ้าขุนทอง ถ้าจำไม่ผิด สวยๆแบบนี้ผู้ชายจ่ายให้สิจ๊ะ หืม เริศค่ะ ที่1บอกเลย ไปดูรูปอันน้อยนิดดีกว่า 

  
เดินทางโดยรถไฟ ตลอดทริป 555

ก็แค่เช๊คเรทติ้ง (บอกแล้วว่าผู้ชายที่นี่งานดีมากกกก)

  
และนี่เพื่อนที่เม๊คอินฮ่องกง ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ  

ถึงวันที่จะกลับแล้วจริงๆ มันรู้สึกเหมือนยังไม่ได้ไปอีกตั้งหลายที่ ยังไม่ได้กินอีกตั้งหลายเมนู แต่ก็ต้องกลับเพราะชีวิตต้องเดินต่อ หลังจากเช๊คเอ้าออกจากที่พักเราก็ทำการลากกระเป๋าเดินทั่วเมืองซึ่งกระเป๋าใบใหญ่มาก พอค่ำสักหน่อยก็ออกเดินทางสู่สนามบิน เพราะจะไปรถไฟ ไม่อยากนั่ง Taxi เราก็ทำการเปิด google map เพื่อนสนิทของดิชั้นเลยจ้าขาดเธอไม่ได้ google map จากที่พักเราจะไปลงที่สถานีฮ่องกง เพราะจะทำการโหลดกระเป๋าที่นั่น แต่แล้วการลากกระเป๋าใบใหญ่มากลงไปสถานีรถไฟใต้ดินลำบากเหลือเกิน เราลากลงไปจนถึงแล้ว แต่กระเป๋าดันเข้าช่องผ่านปกติไม่ได้ มันใบใหญ่เกิน จะหาลิฟลงก็หาไม่เจอ เอาไงล่ะ ช้ากว่านี้ตกเครื่องแน่ เลยตัดสินใจลากขึ้นมาเพื่อจะหาทางไปวิธีใหม่ นั่นก็คือ by bus โอ้จอร์ท มันยอดมาก คิดได้ยังไงอ้อมเอ้ยไปรถบัส 

 
ค่ะ บายบัส สาย26 เพื่อที่จะไปลงเกาลูน 

ในระหว่างยืนรอนั้นรถบัสก็ไม่มาสักที เราก็เรียกTaxiบอกว่าจะไปสถานีเกาลูน โบกอยู่2คัน ไม่ไปสักคัน ห่าเอ้ย นี่เราต้องไปรถบัสจริงหรอ???? แล้วมันจะเลยป้ายมั๊ย คิดยากอยู่พักนึงก็มีผู้ชายรูปหล่อมาช่วยชีวิต เค้ามารอรถบัสเหมือนกัน เราเลยถามว่า จะไปสถานีเกาลูนแต่Taxi ไม่รับฉันเลย ไม่ทราบว่ามีรสบัสไปรึเปล่า (สตอมากบอกเลยก็พึ่งดูmapมาว่าสาย26ผ่าน555) ชายหนุ่มผู้นั้นจึงบอกว่า มี สาย26ไปสุดสายที่สถานีเกาลูน แล้วเค้าถามต่อว่า คุณจะไปสนามบินใช่มั๊ย เราก็ตอบว่าใช่ ไพล์วันนี้ ฉันต้องการไปเช๊คอินและโหลดกระเป๋าก่อนที่สถานีเกาลูนแต่ฉันไม่รู้จะไปสถานีเกาลูนได้อย่างไร (ตอแหลอีกครั้งเพื่อความสมจริงว่าไม่รู้จริงๆควรไปอย่างไร 555) ชายหนุ่มก็บอกว่า  Don’t warry I will take care you 

 

และนี่คือชายหนุ่มผู้นั้น ผู้ซึ่งมาช่วยพาซินไปให้ทันเครื่อง เค้าผู้ซึ่งช่วยแบกกระเป๋า30กิโลขึ้น ลง รถบัส และพาเดินไปยังสถานีเกาลูน โดยผ่านอะไรบ้างก็ไม่รู้ เหมือนจะเป็นห้างอะไรสักอย่าง ไม่ได้สังเกตมัวแต่คุยกับเค้าอยู่ 5555 ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะ พ่อรูปหล่อที่ช่วยซิน หลังจากที่อ้อมถึงสถานีเกาลูนค่ะ ขั้นแรก ซื้อตั๋วไปลง Airport ค่ะ ราคา 105 ดอลลาร์ฮ่องกง แล้วก็เดินไปโหลดกระเป๋าเพื่อจะ สวยๆเข้า Gate หลังจากโหลดกระเป๋าเสร็จก็นั่งรถไฟไปสนามบินค่ะ ถึงสนามบินเร็วกว่ากำหนดมีเวลาเดินดูบองนั่นนี่ กินกาแฟ รอเครื่องออก รอไปก็มองผู้ชายไป 5555 ฟินไปอี๊ก จบทริปแบบสวยๆไปเลยจ้าสำหรับทริปนี้ ทริปหน้าเจอกันใหม่ จะไปที่ไหนคอยติดตามนาจา 


By อ้อมศรีที่รัก

https://youtu.be/Iu7vJ9p88-Y เข้าไปดูคลิปได้ที่นี่นาจา อาจจะมีแน่หน้ากับคำพูด 5555 





ความคิดเห็น